หนองคาย นักท่องเที่ยวทั้งไทยและลาว แห่เที่ยวถ้ำดินเพียงต่างเชื่อเป็นถ้าญานาค สถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัด ดูความมหัศจรรย์และจุดเด่นภายในถ้ำดินเพียงดินซึ่งมีปากถ้ำอยู่เสมอดินและเป็นถ้ำใต้ดิน
ภายในมีโพรงและเสาหินธรรมชาติสลับซับซ้อนสวยงาม เรียกว่า ศาลาพันห้อง
ที่ วัดถ้ำศรีมงคล ตำบลผาตั้ง อำเภอสังคม จังหวัดหนองคาย ซึ่งเป็นสถานที่ที่มีถ้ำดินเพียง
หรือ ถ้ำพญานาค ตั้งอยู่
เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งในจังหวัดหนองคาย ช่วงวันหยุดเสาร์และอาทิตย์หรือช่วงที่มีวันหยุดติดต่อกันหลายวัน
จะมีนักท่องเที่ยวทั้งไทยและลาว
เดินทางเข้าไปสัมผัสบรรยากาศภายในถ้ำดินเพียงแห่งนี้ตลอดทั้งวัน
สำหรับสาเหตุที่ได้ชื่อว่าถ้ำดินเพียง
เนื่องจากถ้ำแห่งนี้มีปากทางเข้าถ้ำอยู่เสมอพื้นดิน ส่วนถ้ำก็อยู่ใต้ดิน
ซึ่งสมัยก่อนเข้าใจว่าบริเวณปากถ้ำเป็นเพียงหลุมธรรมดาเท่านั้น ภายในถ้ำมีโพรง มีซอกซอยสลับสับซ้อน แบ่งแยกออกไปหลายเส้นทาง มีเสาหินหลายร้อยเสา
บางจุดเป็นห้องโถงกว้าง สามารถเชื่อมทะลุถึงกันได้อย่างน่าอัศจรรย์
ลักษณะขนาดของรูใหญ่กว่าตัวคนเพียงเล็กน้อยเหมือนกับเส้นทางของงูใหญ่หรือพญานาค ภายในโพรงก็มีน้ำไหลไปตามซอกซอยทุกเส้นทาง
ทำให้มีความเชื่อว่า ถ้ำแห่งนี้เป็นที่อยู่และที่สัญจรของพญานาค
จึงเรียกถ้ำนี้ตามความเชื่อว่า ถ้ำพญานาค
ศาลาพันห้อง เป็นชื่อเรียกภายในถ้ำที่มีเสาหินขั้นระหว่างห้องต่าง
ๆ หลายพันห้อง ห้องที่เปิดให้นักท่องเที่ยวได้ชม มีเพียง 9 ห้อง ห้องแรกเป็นห้องโถงทางเข้า ,ห้องที่
2 เป็นห้องหีบศพปู่อินทร์นาคราช
ที่มีหินธรรมชาติลักษณะคล้ายโลงศพ , ห้องที่ 3 เป็นห้องเจดีย์ หีบศพ มีแท่นบูชา ,ห้องที่
4 ห้องธิดานาคราช มี 4 ห้องติดกัน ,ห้องที่ 5 ห้องช้างสามเศียรผู้เข้าไปต้องมุดเข้าไปเหมือนมุดท้องช้าง ,ห้องที่ 6 ห้องพระคัมภีร์มีแผ่นหินสี่เหลี่ยมวางคล้ายสมุดเล่มใหญ่ ,ห้องที่ 7
ห้องพระธาตุเจดีย์ ก่อนออกจากถ้ำผู้เข้าไปต้องกราบสักการะนำหินมาวางกองไว้ ,ห้องที่ 8 ห้องโถงทางออก
และห้องที่ 9 ห้องปฏิบัติธรรมของพระสงฆ์ ซึ่งเส้นทางเดินไปแต่ละห้องจะพบกับเงินเหรียญที่ถูกนำวางไว้ตามซอกหิน
และการก่อเจดีย์หินที่วางไว้ ตามความเชื่อเพื่อความเป็นสิริมงคลและประสบผลสำเร็จ
ปัจจุบันจังหวัดหนองคายได้ส่งเสริมให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ
ทางวัดก็ได้จัดไกด์ไว้คอยบริการนำทาง
พร้อมติดตั้งไฟส่องสว่างไปตามเส้นทางไว้บริการนักท่องเที่ยวได้เห็นสภาพภายในได้อย่างชัดเจนและสวยงาม
โดยจะใช้เวลาเดินดูภายในถ้ำ ระยะทาง 200 เมตร จากปากถ้ำถึงทางออก ประมาณ 30-45 นาที หลังจากติดตั้งไฟเพื่ออำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวทำให้ ช่วงวันหยุด หรือเทศกาลสำคัญทางพระพุทธศาสนา มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและลาว
ให้ความสนใจเดินทางมาพิสูจน์ความมหัศจรรย์ของถ้ำแห่งนี้คึกคักตลอดทั้งวัน ทางจังหวัดหนองคายได้ส่งเสริมให้ถ้ำเพียงดินเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดอีกแห่ง เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวโดยทั่วไปหลังเปิดประตูสู่อาเซียนในปลายปีนี้อีกด้วย