วันอาทิตย์ที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2558

หนองคาย นักท่องเที่ยวแห่เที่ยวชมถ้ำดินเพียง หรือถ้าพญานาค

หนองคาย   นักท่องเที่ยวทั้งไทยและลาว แห่เที่ยวถ้ำดินเพียงต่างเชื่อเป็นถ้าญานาค สถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัด  ดูความมหัศจรรย์และจุดเด่นภายในถ้ำดินเพียงดินซึ่งมีปากถ้ำอยู่เสมอดินและเป็นถ้ำใต้ดิน ภายในมีโพรงและเสาหินธรรมชาติสลับซับซ้อนสวยงาม เรียกว่า ศาลาพันห้อง 

ที่ วัดถ้ำศรีมงคล ตำบลผาตั้ง อำเภอสังคม จังหวัดหนองคาย ซึ่งเป็นสถานที่ที่มีถ้ำดินเพียง หรือ  ถ้ำพญานาค ตั้งอยู่    เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งในจังหวัดหนองคาย  ช่วงวันหยุดเสาร์และอาทิตย์หรือช่วงที่มีวันหยุดติดต่อกันหลายวัน จะมีนักท่องเที่ยวทั้งไทยและลาว เดินทางเข้าไปสัมผัสบรรยากาศภายในถ้ำดินเพียงแห่งนี้ตลอดทั้งวัน  
สำหรับสาเหตุที่ได้ชื่อว่าถ้ำดินเพียง   เนื่องจากถ้ำแห่งนี้มีปากทางเข้าถ้ำอยู่เสมอพื้นดิน  ส่วนถ้ำก็อยู่ใต้ดิน ซึ่งสมัยก่อนเข้าใจว่าบริเวณปากถ้ำเป็นเพียงหลุมธรรมดาเท่านั้น  ภายในถ้ำมีโพรง มีซอกซอยสลับสับซ้อน  แบ่งแยกออกไปหลายเส้นทาง มีเสาหินหลายร้อยเสา บางจุดเป็นห้องโถงกว้าง สามารถเชื่อมทะลุถึงกันได้อย่างน่าอัศจรรย์ ลักษณะขนาดของรูใหญ่กว่าตัวคนเพียงเล็กน้อยเหมือนกับเส้นทางของงูใหญ่หรือพญานาค   ภายในโพรงก็มีน้ำไหลไปตามซอกซอยทุกเส้นทาง ทำให้มีความเชื่อว่า ถ้ำแห่งนี้เป็นที่อยู่และที่สัญจรของพญานาค จึงเรียกถ้ำนี้ตามความเชื่อว่า ถ้ำพญานาค

ศาลาพันห้อง เป็นชื่อเรียกภายในถ้ำที่มีเสาหินขั้นระหว่างห้องต่าง ๆ หลายพันห้อง ห้องที่เปิดให้นักท่องเที่ยวได้ชม มีเพียง 9 ห้อง ห้องแรกเป็นห้องโถงทางเข้า ,ห้องที่ 2 เป็นห้องหีบศพปู่อินทร์นาคราช ที่มีหินธรรมชาติลักษณะคล้ายโลงศพ  , ห้องที่ 3 เป็นห้องเจดีย์ หีบศพ มีแท่นบูชา ,ห้องที่ 4 ห้องธิดานาคราช มี 4 ห้องติดกัน  ,ห้องที่ ห้องช้างสามเศียรผู้เข้าไปต้องมุดเข้าไปเหมือนมุดท้องช้าง  ,ห้องที่ 6 ห้องพระคัมภีร์มีแผ่นหินสี่เหลี่ยมวางคล้ายสมุดเล่มใหญ่  ,ห้องที่ 7 ห้องพระธาตุเจดีย์ ก่อนออกจากถ้ำผู้เข้าไปต้องกราบสักการะนำหินมาวางกองไว้  ,ห้องที่ 8 ห้องโถงทางออก และห้องที่ 9 ห้องปฏิบัติธรรมของพระสงฆ์  ซึ่งเส้นทางเดินไปแต่ละห้องจะพบกับเงินเหรียญที่ถูกนำวางไว้ตามซอกหิน และการก่อเจดีย์หินที่วางไว้ ตามความเชื่อเพื่อความเป็นสิริมงคลและประสบผลสำเร็จ


ปัจจุบันจังหวัดหนองคายได้ส่งเสริมให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ ทางวัดก็ได้จัดไกด์ไว้คอยบริการนำทาง พร้อมติดตั้งไฟส่องสว่างไปตามเส้นทางไว้บริการนักท่องเที่ยวได้เห็นสภาพภายในได้อย่างชัดเจนและสวยงาม โดยจะใช้เวลาเดินดูภายในถ้ำ ระยะทาง 200 เมตร จากปากถ้ำถึงทางออก ประมาณ 30-45 นาที   หลังจากติดตั้งไฟเพื่ออำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวทำให้ ช่วงวันหยุด หรือเทศกาลสำคัญทางพระพุทธศาสนา    มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและลาว  ให้ความสนใจเดินทางมาพิสูจน์ความมหัศจรรย์ของถ้ำแห่งนี้คึกคักตลอดทั้งวัน   ทางจังหวัดหนองคายได้ส่งเสริมให้ถ้ำเพียงดินเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดอีกแห่ง  เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวโดยทั่วไปหลังเปิดประตูสู่อาเซียนในปลายปีนี้อีกด้วย