วันพฤหัสบดีที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2558

ปลูกผักไร้ดินปลอดสารพิษไว้บริโภคและเพื่อเสริมสร้างรายได้

             
                             หนองคาย   แม่บ้านปลูกผักไร้ดินไว้บริโภคในครัวเรือน ลดค่าใช้จ่าย ต่อยอดทำเป็นอาชีพเสริมสร้างรายได้ และยังเป็นศูนย์เรียนรู้ให้กับชุมชนที่มีพื้นที่ใช้สอยน้อย  เหมาะสำหรับคนเมืองในปัจจุบัน

ที่บ้านเลขที่  172 หมู่ที่ 2   บ้านเดื่อ ตำบลบ้านเดื่อ อำเภอเมือง จังหวัดหนองคาย  นางปัทมนันท์ จันทำมา อายุ 46 ปี เจ้าของบ้านกล่าวว่า   ก่อนที่ตนจะหันมาปลูกผักไร้ดิน เคยเลี้ยงปลาในกระชัง ที่ต้องลงทุนมากและประสบกับการขาดทุน จึงได้หันเหตนเองศึกษาและได้เรียนรู้วิธีการปลูกผักไร้ดินหรือปลูกผักแบบ “ไฮโดรโปนิกส์” ที่ไม่จำเป็นต้องใช้ดิน และมือก็ไม่เปื้อนดิน จึงมีแนวคิดนำมาทดลองปลูก เพื่อจะได้ลดค่าใช้จ่ายในการซื้อผักเพื่อบริโภคผักที่ไม่ปนเปื้อนสารเคมี จากการลองผิดลองถูกจนสามารถปลูกผักไร้ดินได้เอง  เริ่มปลูกมาตั้งแต่เดือน สิงหาคม 2557  ปัจจุบันตนมีแปลงปลูกผักไร้ดิน จำนวน 5 แปลง แต่ละแปลงสามารถปลูกผักได้ 100 ต้น ซึ่งเป็นการลงทุนเพียงครั้งเดียว ในการซื้ออุปกรณ์มาทำแปลงปลูก และยังเป็นศูนย์เรียนรู้ให้กับชาวบ้านในชุมชนที่สนใจ   นำไปปลูกสร้างอาชีพเสริม  และยังมีผักที่ปลอดสารพิษไว้บริโภคในครัวเรือน โดยอาศัยตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ  อีกทั้งยังเหมาะสำหรับคนเมือง ที่มีพื้นที่ใช้สอยไม่มาก ก็สามารถทำแปลงปลูกผักไร้ดินได้


การปลูกผักไร้ดินนั้น  ตนเน้นปลูกผักกาดแก้ว ผักกาดหอมและผักสลัด  จำนวน 5 แปลง ๆ ละ 100 ต้น ใช้เวลา 5 สัปดาห์ผักจะโต   สามารถเก็บบริโภค และนำไปจำหน่ายได้ ในราคา ต้นละ 10 บาท  จะมีรายได้สัปดาห์ละ 2,000-3,000 บาท วิธีการปลูกผักไร้ดินนั้น จะใช้ระบบน้ำไหลหมุนเวียนและกางมุ้งปิดเพื่อป้องกันแมลง  แทนการใช้สารเคมี    ซึ่งถือว่า ประสบความสำเร็จ และผักก็เจริญเติบโตต้นใหญ่ สวยงาม สด กรอบ เมื่อนำไปบริโภคจึงมั่นใจปลอดสารพิษ นำไปจำหน่ายผู้ซื้อก็มั่นใจว่าได้ผักปลอดสานเคมีไปบริโภค   ซึ่งสามารถปลูกได้ทุกครัวเรือน เนื่องจากประหยัดพื้นที่ปลูกโดยไม่ต้องมีข้อจำกัดในเรื่องของดินและพื้นที่ ทั้งยังได้ผักสดสะอาด ซึ่งเหมาะกับการใช้ชีวิตของคนเมืองในปัจจุบัน.    
  

หนองคาย ตชด. รวบวัยรุ่น อายุ 16 ท้อง 5 เดือน พร้อมยาบ้า 3,942 เม็ด

    
                    

                 หนองคาย  ตชด.สนธิกำลังทหารกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี และชุดปราบปรามยาเสพติด  รวบวัยรุ่นท้อง
5  เดือนและป้า  พร้อมยาบ้า 3,942  เม็ด  อ้างรับจ้างส่งให้กับผู้ค้า จากนั้นเจ้าหน้าที่สามารถรวบหนุ่มลาวได้ขณะจะมารับเงินค่ายาบ้าจากผู้ต้องหาทั้งสอง

                วันที่ 28 เม.ย. 58 ที่ฐานปฏิบัติการหมวด ตชด.2452  ตำบลผาตั้ง อำเภอสังคม จังหวัดหนองคาย พ.ต.ท.บุญเลิศ  วิเศษชาติ ผบ.ร้อย ตชด.245 พร้อมด้วย ทหารจากกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี เจ้าหน้าที่ชุดป้องกันและปราบปรามยาเสพติดหนองคาย และกำลังเจ้าหน้าที่จำนวนหนึ่ง ได้ร่วมกันจับกุมนางสาวรี (นามสมมุติ) อายุ 16 ปี อยู่บ้านเลขที่ 14 ต.โนนทอง อ.นายูง จ.อุดรธานี ,นางหนูพิน เพียดดงมัน อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 188 หมู่ที่ 3 ต.โนนทอง อ.นายูง จ.อุดรธานี และท้าวตู่ ชาวลาว พร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 3,942 เม็ด รถยนต์จักรยานยนต์ 1 คัน ยี่ห้อ... หมายเลข......สร้อยคอทองคำ 1 เส้น สร้อยข้อมือทองคำ 1 เส้น โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง  และเงินสดจำนวนหนึ่ง

                การจับกุมครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากสายว่าจะมีการส่งมอบยาบ้าที่บริเวณปั้มน้ำมันแห่งหนึ่งที่บ้านปากโสม หมู่ที่ 3 ตำบลผาตั้ง อ.สังคม จ.หนองคาย จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบและนำกำลังไปดักซุ่ม จนกระทั่งพบนางสาวรี (นามสมมุติ) อายุ 16 ปี ขับขี่รถจักรยานยนต์คันดังกล่าวมาจอดที่บริเวณปั๊มน้ำมันตามที่ได้รับแจ้ง เจ้าหน้าที่ จึงได้แสดงตัวขอเข้าตรวจค้นพบยาบ้าจำนวนดังกล่าวบรรจุในถุงพาสติกสีฟ้า พันทับด้วยเทปกาวพันสายไฟสีดำ ซุกซ่อนอยู่ภายใต้เบาะรถจักรยานยนต์  จึงได้ควบคุมตัวมาทำการสอบสวนที่ที่ฐานปฏิบัติการหมวด ตชด.2452  

             จากการสอบสวนนางสาวรีฯ สารภาพว่า  ตนตั้งท้องได้ 5 เดือน ยาบ้าดังกล่าวไม่ใช่ของตน ตนได้รับการว่าจ้างจาก  นางหนูพิน เพียดดงมัน ซึ่งเป็นป้าให้นำยาบ้าไปส่งให้ลูกค้า เมื่อส่งเสร็จตนจะได้ค่าจ้าง 5,000 บาท จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ขยายผลเข้าจับกุมนางหนูพิน เพียดดงมัน ได้ที่บริเวณร้านอาหารแห่งหนึ่ง ตรงข้ามกับที่เกิดเหตุ  ซึ่งนางหนูพินฯ รับสารภาพว่า ยาบ้าเป็นของนางดาวฯ ชาวลาว ตนเพียงรับจ้างส่งยาบ้า เมื่อส่งเสร็จจะได้รับเงินค่าจ้าง 20,000 บาท  จากนั้น เจ้าหน้าที่ยังสามารถจับกุมท้าวตู่ฯ ชาวลาว ขณะจะมารับเงินค่ายาบ้ากับผู้ต้องหาทั้งสอง

             จากนั้น เจ้าหน้าที่ฯ ได้นำกำลัง ทหารและตชด. เข้าตรวจค้นบ้านของนางหนูพิน เพียดดงมัน ที่หมู่ที่ 3 บ้านเชียงดี อ.สังคม จ.หนองคาย และบ้านเช่า  ซึ่งการตรวจค้นไม่พบสิ่งผิดกฎหมายแต่อย่างใด

                  เจ้าหน้าที่ได้ตั้งข้อหา ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย ส่วนท้าวตู่ ตั้งข้อหาลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายเพิ่มอีก 1 ข้อหา  พร้อมควบคุมตัวทั้งสามพร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน สภ.สังคม  เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

หนองคาย คณะกรรมาธิการตำรวจประชุมและติดตามการดำเนินงานรองรับ AEC

หนองคาย  คณะกรรมาธิการตำรวจ ประชุมกฎหมายเกี่ยวกับอาชญากรข้ามชาติซึ่งเป็น พ.ร.บ.ใหม่ และตรวจติดตามการดำเนินงานของเจ้าหน้าที่ที่บริเวณด่านสะพานมิตรภาพไทย-ลาว เพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน

                 วันที่ 29 เม.ย.58  ที่ห้องประชุมมิตรภาพ ตรวจคนเข้าเมืองหนองคาย อำเภอเมืองหนองคาย พลเรือเอกศิษฐวัชร  วงศ์สุวรรณ  ประธานกรรมาธิการกฎหมายและกิจการตำรวจ พร้อมคณะได้ประชุมยุทธศาสตร์ของกรรมาธิการตำรวจ เรื่องกฎหมายเกี่ยวกับอาชญากรรมข้ามชาติ ซึ่งเป็น พ.ร.บ.ใหม่   และติดตามเกี่ยวกับแผนการดำเนินงานเพื่อรองรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ตลอดจนปัญหาอุปสรรคในการดำเนินงานของแต่ละหน่วยงาน มาตรการในการตรวจคนเข้าเมือง การควบคุมดูแล และตรวจสอบยานพาหนะ รวมทั้งผู้ขับขี่ชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาภายในประเทศ โดยมี  นายอโณทัย ธรรมกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จำนวน 16 หน่วยงาน เข้าร่วมประชุม พร้อมนำเสนอข้อมูล และปัญหาอุปสรรคในการปฏิบัติหน้าที่แก่คณะฯ   

              หลังจากประชุมฯ  คณะได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในการบริการแก่บุคคล และยานพาหนะที่เดินทางเข้า-ออกประเทศ ที่บริเวณด่านสะพานมิตรภาพไทย-ลาว 
              สำหรับการเดินทางมาประชุมครั้งนี้ พลเรือเอกศิษฐวัชร  วงศ์สุวรรณ  ประธานกรรมาธิการกฎหมายและกิจการตำรวจ กล่าวว่า เพื่อรับปัญหาข้อขัดข้องเกี่ยวกับการบริหารในพื้นที่ของหน่วยงานที่รับผิดชอบในการปฏิบัติหน้าที่บริเวณด่านสะพานฯ  ตลอดจนยานพาหนะ ผู้ขับขี่ชาวต่างประเทศที่เดินทางเข้า-ออกประเทศ  ทำอย่างไรให้เป็นระบบและระเบียบ โดยจะเสนอข้อมูล และปัญหาของหน่วยงานในพื้นที่ต่อ สนช.  ต่อไป




                

วันอาทิตย์ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2558

ตำรวจหนองคายซ้อนแผนรวบแก๊งตำรวจเมืองอุดร นอกรีต



ตำรวจหนองคาย ซ้อนแผนนำกำลังเข้ารวบ แก๊งตำรวจเมืองอุดรฯ นอกรีต ร่วมกันกรรโชกทรัพย์ กักขังหน่วงเหนี่ยว ชาวลาวเรียกเงิน2 ล้านบาท หลังเข้าขอความช่วยเหลือ จาก ผบก.ภว.หนองคาย ว่าแม่และน้องชายถูกจับตัวเรียกค่าไถ่ และถูกยัดยาบ้า ให้นำเงินมาแลกก่อนจะถูกส่งตัวดำเนินคดี...
วันที่ 26 เม.ย.58 เวลาประมาณ 19.00 น. ที่ด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย-ลาว จ.หนองคาย พล.ต.ต.ชูรัตน์ ปานเหง้า ผบก.ภ.จว.หนองคาย ,พ.ต.อ.อัครพงศ์ พิมลศิริ รอง ผบก.ภ.จว.หนองคาย ,พ.ต.อ.อภิศักดิ์ กรองทิพย์ ผกก.สภ.เมือง พ.ต.ท.วิเศษ ลานอุ่น  สวป.สภ.เมืองหนองคาย พร้อมเจ้าหน้าที่จำนวนหนึ่ง เข้าจับกุม ร.ต.อ.สุรพัศ เพ็ญศรี รอง สว.สส.สภ.เมืองอุดรธานี, ร.ต.ท.พีระพงษ์ ตรีพงษ์ รองสว.สส.สภ.เมืองอุดรธานี ,ร.ต.ต.สมเด็จ สุขรมย์ รองสว.สส.สภ.เมืองอุดรธานี, ด.ต.ปกรณ์ สุขประเสริฐ ผบ.หมู่ ป.สภ.หนองหาน จ.อุดรธานี ,ด.ต.ชัยณรงค์ อรดี ผบ.หมู่ จร.สภ.เมืองอุดรธานี, ด.ต.วิรัตน์ ตานุชนม์ ผบ.หมู่ (สส.)สภ.เมือง อุดรธานี, นายธวัช ทิพสุภา ตำรวจอาสา และนายตี๋ อาจสุวรรณ์ พร้อมของกลาง อาวุธปืนพกสั้นขนาด 9 มม.จำนวน  7 กระบอก ปืนลูกซองยาว 1 กระบอก พร้อมกระสุนจำนวนหนึ่ง เงินสด 300,000 บาท ยาบ้า 108 เม็ด ยาไอซ์ 1 ถุง รถยนต์กระบะ 2 คัน รถยนต์เก๋ง 1 คัน


การจับกุมครังนี้สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 11.00 น. วันเดียวกัน นางพวงมาลี ตันทะแก้ว อายุ 20 ปี อยู่เมืองสีโคตตะบอง  กำแพงนครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว ได้เข้าพบ พล.ต.ต.ชูรัตน์  ปานเหง้า ผบก.ภ.จว.หนองคาย เพื่อขอความช่วยเหลือ โดยบอกว่าเมื่อเย็นของวันที่ 25 เม.ย.ที่ผ่านมา นางบัวจัน ตันทะแก้ว อายุ 55 ปี และท้าวพอนสะหวัน ตันทะแก้ว อายุ 14 ปี แม่และน้องชายของตน ได้เดินทางมาที่จังหวัดหนองคาย เพื่อมาหาซื้อเครื่องใช้ต่าง ๆ แต่ได้ถูกกลุ่มคนที่อ้างตัวว่าเป็นตำรวจ สภ.เมืองอุดรธานี จับกุม และตั้งข้อหาค้ายาบ้า ทั้งๆที่ตนและครอบครัวไม่เคยมีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องยาเสพติดเลย  และกลุ่มบุคคลดังกล่าวได้ให้แม่ของตนโทรศัพท์มาหาตน แล้วให้นำเงินจำนวน 2 ล้านบาทมาไถ่ตัว ไม่เช่นนั้น จะถูกนำตัวส่งที่สถานีตำรวจ   กลัวว่าแม่และน้องชายจะได้รับอันตราย จึงได้เข้าขอความช่วยเหลือจาก ผบก.ภ.จว.หนองคาย
หลังจากนั้น พล.ต.ต.ชูรัตน์ ปานเหง้า ผบก.ภ.จว.หนองคาย  ได้เรียกเจ้าหน้าที่เข้าวางแผนเพื่อให้ความช่วยเหลือสองแม่ลูกชาวลาว โดยได้ให้นางพวงมาลี ทำทีเป็นโทรศัพท์ต่อรองค่าไถ่ กระทั่งตกลงค่าไถ่เหลือ 3 แสนบาท และนัดจ่ายเงินกันที่ลานจอดรถตรงข้ามวัดจันทรสามัคคี อ.เมืองหนองคาย เชิงสะพานมิตรภาพไทย-ลาว ในเวลา 19.00 น. เมื่อถึงเวลานัดหมายเจ้าหน้าที่ตำรวจเมืองหนองคายได้ปลอมตัวเป็นคนขับรถแท็กซี่ โดยมีนางพวงมาลี พร้อมเงินสด 3 แสนบาท นั่งไปยังจุดนัดหมาย พอถึงลานจอดรถได้พบกลุ่มคนดังกล่าวและท้าวพอนสะหวัน อยู่ในรถกระบะ โตโยต้าวีโก้ สีเทา หมายเลขทะเบียน บษ 5977 อุดรธานี และรถกระบะ  โตโยต้าวีโก้ สีดำ หมายเลขทะเบียน บม 1672 ร้อยเอ็ด ขณะนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ซุ่มอยู่เมื่อได้รับสันญาณจึงได้เข้าแสดงตัวจับกุม ได้พร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 108 เม็ด ยาไอซ์ 1 ถุง ต่อมา ร.ต.อ.สุรพัศ เพ็ญศรี รอง สว.สส.สภ.เมืองอุดรธานี ได้ขับรถเก๋ง ฮอนด้า ซีวิค สีเทา หมายเลขทะเบียน กท 9951 อุดรธานี มาพร้อมกับนางบัวจัน โดยอ้างว่าตนอยู่ในระหว่างปฏิบัติหน้าที่ เป็นการขยายผลการจับกุม
ด้านนางบัวจัน ตันทะแก้ว ยืนยันต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเมืองหนองคายว่า  เมื่อตอนบ่ายของวันที่ 25 เม.ย.2558 ตนและท้าวพอนสะหวัน ตันทะแก้ว ลูกชายได้เดินทางมายังจังหวัดหนองคาย เพื่อซื้อสินค้าที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในตัวเมืองหนองคาย ต่อมาก็ได้รับโทรศัพท์จากท้าวทอง ชาวลาว ซึ่งเป็นคนรู้จักกันว่าให้ตนไปรับเงินค่าซื้อขายไม้ แทนท้าวทองให้ด้วย และจะมีคนนำเงินมามอบให้ ต่อมาได้มีนางพัชรมัย พรหมวิชัย อายุ 40 ปี บ้านลุมพุก ต.ท่าศิลา อ.สองดาว จ.สกลนคร นำถุงมาให้โดยไม่ทราบว่าข้างในถุงมีอะไร จากนั้นก็ได้มีกลุ่มบุคคลทั้ง 8 คนที่อ้างตัวว่าเป็นตำรวจเมืองอุดร เข้าจับกุมและบอกว่า ตนขายยาบ้า และได้มารับเงินค่ายาบ้า ซึ่งตนได้ปฎิเสธไปว่าตนและครอบครัวไม่เคยเกี่ยวข้องกับยาเสพติดแต่อย่างไร แต่กลุ่มบุคคลดังกล่าวไม่ยอมและได้เรียกเงินแทนการปล่อยตัว


เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แจ้งข้อกล่าวหา ร่วมกันกรรโชกทรัพย์ กักขังหน่วงเหนี่ยว มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และได้นำตัวทั้ง 8 คนส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองหนองคาย ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.

วันพฤหัสบดีที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2558

หนองคาย มอบโฉนดที่ดิน 60 พรรษา 60 ร้อยแปลง เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี




วันที่ 23 เมษายน 2558 ที่หอประชุมประจักษ์ศิลปาคม ศาลากลางจังหวัดหนองคาย  นายนิติรัฐ ไชยศรี ผู้อำนวยการศูนย์เดินสำรวจออกโฉนดที่ดินจังหวัดหนองคาย-บึงกาฬ-เลย ได้จัดพิธีมอบโฉนดที่ดินแก่ประชาชน  ตามโครงการ มอบโฉนดที่ดิน 60 พรรษา 60 ร้อยแปลงเพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาสฉลองพระชนมายุ 5 รอบ 2 เมษายน 2558   โดยมีนายสุชาติ  นพวรรณ   ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย  เป็นประธานในพิธีมอบ และ นายถวัลย์  ทิมาสาร รองอธิบดีกรมที่ดิน กล่าวรายงานการจัดโครงการ จากนั้นประธานและคณะตัวแทนจากทุกภาคส่วน ได้ร่วมมอบโฉนดที่ดินให้กับประชาชนในพื้นที่ตำบลค่ายบกหวาน อำเภอเมืองหนองคาย และตำบลคอกช้าง อำเภอสระใคร จังหวัดหนองคาย จำนวน 399 แปลง  ตามโครงการ มอบโฉนดที่ดิน 60 พรรษา 60 ร้อยแปลงเพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาสทรงเจริญพระชนมายุ 60 พรรษา ในวันที่ 2 เมษายน 2558 และเป็นการน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ และแสดงความจงรักภักดี ถวายเป็นราชสักการะแด่พระองค์ท่าน


        เนื่องในโอกาสมหามงคลที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จะทรงเจริญพระชนมายุ 60 พรรษา 2 เมษายน 2558 เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติถวายแด่พระองค์ท่าน กระทรวงมหาดไทย และกรมที่ดินมีนโยบายที่จะเร่งรัดให้มีการออกเอกสารสิทธิที่ดินทำกินให้แก่ประชาชน เพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชน ที่ต้องการมีกรรมสิทธิ์ในที่ดิน ในการครอบครอบและใช้ประโยชน์ รวมทั้งถือเป็นหลักทรัพย์สำคัญในการสร้างความมั่นคงให้กับตนเอง และครอบครัว พร้อมกับสร้างความเป็นธรรม และลดความเหลื่อมล้ำในการใช้ประโยชน์ที่ดิน สำนักงานที่ดินจังหวัดหนองคาย  และกรมที่ดิน โดยศูนย์อำนวยการเดินสำรวจออกโฉนดที่ดินจังหวัดหนองคาย เลย บึงกาฬ  ได้ดำเนินการสำรวจรังวัดทำแผนที่เพื่อออกโฉนด ตามโครงการพัฒนามาตรฐานแผนที่รูปแปลงโฉนดที่ดินและเร่งรัดการออกโฉนดที่ดินให้ครอบคลุมทั่วประเทศ ด้วยเทคโนโลยีการรับวัดระบบดาวเทียม ให้แล้วเสร็จภายใน 10 ปี.     
    
        

       

วันพุธที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2558

นรข.หนองคาย สนธิกำลัง ยึดกัญชา 320 กก.


หนองคาย     หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำน้ำโขง สนธิกำลัง  กองกำลังรักษาความสงบ จังหวัดหนองคาย ตำรวจภูธร  ตำรวจตระเวนชายแดนและฝ่ายปกครอง  ยึดกัญชาแห้งอัดแท่ง   320 กิโลกรัม.ซุกซ่อนในรถยนต์ ที่ลักลอบนำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้าน ส่วนผู้ต้องหา อาศัยความมืดและชำนาญพื้นที่หลบหนีไปได้

                วันที่ 22  เมษายน 2558   ที่ สถานีเรือรัตนวาปี อ.รัตนวาปี จ.หนองคาย  นายสุชาติ  นพวรรณ  ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย พร้อมด้วย นาวาเอกนภดล บุญเจริญ ผบ.นรข.เขตหนองคาย , พ.ต.อ.ไพศาล ลือสมบูรณ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดหนองคาย ,พ.ต.อ.วิรัช  นกแก้ว  ผกก.สภ.รัตนวาปี ,นายธนาวุฒิ ทองทวี นายอำเภอรัตนวาปี ,  พ.ต.ท.อนุรักษ์ เสนามาตย์ ผบ.ร้อย ตชด.244 และร้อยตรีเรืองยศ  ปักกาเวสูง  กองกำลังรักษาความสงบประจำจังหวัดหนองคาย พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จำนวนหนึ่ง  ร่วมกันแถลงข่าวการ ตรวจยึดกัญชาแห้งอัดแท่ง  320  กิโลกรัม  ที่ซุกซ่อนในรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า วีโก้ 4 ประตู สีบอร์นเงิน หมายเลขทะเบียน ขบ 3277 กรุงเทพฯ 

                การจับกุมครั้งนี้ เรือเอกสุเมธ วัชรจิตรกุล หัวหน้าสถานีเรือรัตนวาปี ได้สืบทราบว่า   จะมีการลับลอบและลำเลียงกัญชามาจากประเทศเพื่อนบ้าน  มาขึ้นฝั่งไทยบริเวณบ้านต้อนใหญ่ ตำบลบ้านต้อน อำเภอรัตนวาปี  จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และได้สนธิกำลังเข้าดักซุ่มใกล้บริเวณดังกล่าว  จากนั้นเวลาประมาณ 01.00 น. ของวันนี้ พบเรือกีบเพลายาวแล่นมาจากฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน มีชายนั่งมาในเรือ 3 คน ภายในเรือบรรทุกกระสอบปุ๋ย มาเต็มลำเรือ มุ่งหน้ามาขึ้นฝั่งบริเวณดังกล่าว  เมื่อถึงฝั่งชายทั้งสามได้ช่วยกันลำเลียงกระสอบปุ๋ยที่บรรจุกัญชา ขึ้นไปไว้บนบนรถยนต์บริเวณห้องโดยสารด้านหลังคนขับที่ได้ดัดแปลงเอาเบาะนั่งออก             เจ้าหน้าที่ที่ดักซุ้มอยู่ จึงได้เข้าแสดงตัวขอตรวจค้น ทั้งหมดเห็นเจ้าหน้าที่ตกใจ ทิ้งกัญชาและรถยนต์ อาศัยความมืดวิ่งหลบหนีไปได้ เนื่องจากชำนาญพื้นที่   เจ้าหน้าที่ฯ จึงได้นำรถยนต์และกัญชาที่บรรจุอยู่ในกระสอบ ไปไว้ที่สถานีเรือรัตนวาปี  จากการตรวจสอบทะเบียนรถฯ  ขบ 3277 กรุงเทพฯ ที่ติดมากับรถคันดังกล่าว  พบว่าเป็นทะเบียนรถปลอม 


                 ส่วนกัญชาแห้งอัดแท่ง  320  แท่ง บรรจุในถุงพลาสติกสีดำ และบรรจุในกระสอบปุ๋ยอีกชั้น จำนวน 7 กระสอบ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฯจะได้ทำการลงบันทึกประจำวัน และนำของกลาง ส่ง สภ.รัตนวาปี พร้อมจะได้ติดตามผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป



วันอังคารที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2558

หนองคาย ปลูกผักไร้ดินไว้บริโภคในครัวเรือน ลดค่าใช้จ่าย ต่อยอดทำเป็นอาชีพเสริมสร้างรายได้

                             
          หนองคาย   แม่บ้านปลูกผักไร้ดินไว้บริโภคในครัวเรือน ลดค่าใช้จ่าย ต่อยอดทำเป็นอาชีพเสริมสร้างรายได้ และยังเป็นศูนย์เรียนรู้ให้กับชุมชนที่มีพื้นที่ใช้สอยน้อย  เหมาะสำหรับคนเมืองในปัจจุบัน

ที่บ้านเลขที่  172 หมู่ที่ 2   บ้านเดื่อ ตำบลบ้านเดื่อ อำเภอเมือง จังหวัดหนองคาย  นางปัทมนันท์ จันทำมา อายุ 46 ปี เจ้าของบ้านกล่าวว่า   ก่อนที่ตนจะหันมาปลูกผักไร้ดิน เคยเลี้ยงปลาในกระชัง ที่ต้องลงทุนมากและประสบกับการขาดทุน จึงได้หันเหตนเองศึกษาและได้เรียนรู้วิธีการปลูกผักไร้ดินหรือปลูกผักแบบ “ไฮโดรโปนิกส์” ที่ไม่จำเป็นต้องใช้ดิน และมือก็ไม่เปื้อนดิน จึงมีแนวคิดนำมาทดลองปลูก เพื่อจะได้ลดค่าใช้จ่ายในการซื้อผักเพื่อบริโภคผักที่ไม่ปนเปื้อนสารเคมี จากการลองผิดลองถูกจนสามารถปลูกผักไร้ดินได้เอง  เริ่มปลูกมาตั้งแต่เดือน สิงหาคม 2557  ปัจจุบันตนมีแปลงปลูกผักไร้ดิน จำนวน 5 แปลง แต่ละแปลงสามารถปลูกผักได้ 100 ต้น ซึ่งเป็นการลงทุนเพียงครั้งเดียว ในการซื้ออุปกรณ์มาทำแปลงปลูก และยังเป็นศูนย์เรียนรู้ให้กับชาวบ้านในชุมชนที่สนใจ   นำไปปลูกสร้างอาชีพเสริม  และยังมีผักที่ปลอดสารพิษไว้บริโภคในครัวเรือน โดยอาศัยตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ  อีกทั้งยังเหมาะสำหรับคนเมือง ที่มีพื้นที่ใช้สอยไม่มาก ก็สามารถทำแปลงปลูกผักไร้ดินได้

             การปลูกผักไร้ดินนั้น  ตนเน้นปลูกผักกาดแก้ว ผักกาดหอมและผักสลัด  จำนวน 5 แปลง ๆ ละ 100 ต้น ใช้เวลา 5 สัปดาห์ผักจะโต   สามารถเก็บบริโภค และนำไปจำหน่ายได้ ในราคา ต้นละ 10 บาท  จะมีรายได้สัปดาห์ละ 2,000-3,000 บาท วิธีการปลูกผักไร้ดินนั้น จะใช้ระบบน้ำไหลหมุนเวียนและกางมุ้งปิดเพื่อป้องกันแมลง  แทนการใช้สารเคมี    ซึ่งถือว่า ประสบความสำเร็จ และผักก็เจริญเติบโตต้นใหญ่ สวยงาม สด กรอบ เมื่อนำไปบริโภคจึงมั่นใจปลอดสารพิษ นำไปจำหน่ายผู้ซื้อก็มั่นใจว่าได้ผักปลอดสานเคมีไปบริโภค   ซึ่งสามารถปลูกได้ทุกครัวเรือน เนื่องจากประหยัดพื้นที่ปลูกโดยไม่ต้องมีข้อจำกัดในเรื่องของดินและพื้นที่ ทั้งยังได้ผักสดสะอาด ซึ่งเหมาะกับการใช้ชีวิตของคนเมืองในปัจจุบัน.      

กระทรวงมหาดไทยแถลงผลการดำเนินงานรอบ 6 เดือน


          หน่วยงานสังกัดกระทรวงมหาดไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รับฟังการแถลงผลการดำเนินงานรอบ 6 เดือน ของกระทรวงมหาดไทย ผ่านระบบวีดีทัศน์ทางไกล
          วันนี้  ที่ห้องปฏิบัติการจังหวัด ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดหนองคาย อำเภอเมืองหนองคาย  ดร.ไพฑูรย์ รักษ์ประเทศ ปลัดจังหวัดหนองคาย พร้อมด้วยตัวแทนหน่วยงานสังกัดกระทรวงมหาดไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้ารับฟังการแถลงผลการดำเนินงานรอบ 6 เดือน ของกระทรวงมหาดไทย โดยมีพลเอกอนุพงษ์  เผ่าจินดา  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ,นายสุธี  มากบุญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และ นายวิบูลย์  สงวนพงษ์  ปลัดกระทรวงมหาดไทย  ร่วมแถลงข่าวผลการดำเนินงานรอบ 6 เดือนของกระทรวงมหาดไทย ผ่านระบบวีดีทัศน์ทางไกล หรือ Video Conference
          สำหรับการแถลงผลการดำเนินงานรอบ 6 เดือนของกระทรวงมหาดไทย ครั้งนี้ จำนวน 5 ด้าน 23 เรื่อง ประกอบด้วย ด้านการปกป้องและเชิดชูสถาบันพระมหากษัตริย์ ได้แก่ การน้อมเกล้าฯ ถวายพลับพลาเขาดอกไม้ ในพื้นที่โครงการชั่งหัวมันตามพระราชดำริ และการก่อสร้างห้องสมุดเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี,   ด้านความมั่นคงและการรักษาความปลอดภัย ได้แก่ การแก้ไขปัญหาภัยแล้ง ยาเสพติด การค้ามนุษย์ แรงงานต่างด้าว ปัญหาชายแดนใต้ ขยะมูลฝอย การติดตั้งไฟสาธารณะในจุดเสี่ยง การจัดที่ดินทำกิน และการจัดระเบียบการค้าในที่สาธารณะ  ,ด้านเศรษฐกิจและการลดความเหลื่อมล้ำ ได้แก่ การเตรียมพื้นที่ในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ  ตลาดชุมชน การส่งเสริมสินค้าโอท็อป  ขยายเขตไฟฟ้า และระบบปาปา , ด้านการบริหารราชการแผ่นดิน ได้แก่ ศูนย์ดำรงธรรม  การทำบัตร Smart Card  ความโปร่งใสในการใช้จ่ายเงินองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจชาติ  การป้องกันและปราบปรามการทุจริต การชับเคลื่อนยุทธศาสตร์ในระดับพื้นที่และการประเมินผลการปฏิบัติงานผู้ว่าราชการจังหวัด  และด้านการปฏิรูป  ได้แก่ การสร้างความปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูป  ซึ่งหลังจากแถลงผลงานเสร็จได้ให้สื่อมวลชนที่เข้าร่วมรับฟังซักถาม ก่อนปิดการแถลงผลงานฯ
           
............................................................



วันอาทิตย์ที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2558

หนองคาย ภาพข่าว ขบวนแห่เชิญผ้าไตร น้ำสรงพระราชทานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และผ้าห่ม “สธ” พระราชทานของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี

ภาพข่าว   ขบวนแห่เชิญผ้าไตร น้ำสรงพระราชทานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ  และผ้าห่ม “สธ” พระราชทานของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี  จากลานอนุสาวรีย์ปราบฮ่อ ไปยังวัดโพธิ์ชัย (พระอารามหลวง) อำเภอเมือง จังหวัดหนองคาย