หนองคาย อำเภอสังคมถือเมืองแห่งกล้วยน้ำว้าที่มีชื่อเสียง
หลายปีที่ผ่านมาช่วงที่ราคายางพาราสูงเกษตรกรหันไปปลูกยางพาราแทน เกษตรกรพบว่าต้องลงทุนสูงขายผลผลิตก็ราคาตกต่ำต่อเนื่อง
ต้องตัดต้นยางทิ้งหันไปปลูกพืชระยะสั้นได้ผลผลิตเร็ว
จำหน่ายสร้างรายได้เลี้ยงครอบครัวแทน สนองนโยบายรัฐบาลในการปรับเปลี่ยนปลูกพืชอื่นทดแทน
นายวาทิน กุศล อายุ 42 ปี เกษตรกรปลูกกล้วยน้ำว้า ชาวบ้านม่วง ตำบลบ้านม่วง อำเภอสังคม
จังหวัดหนองคาย กล่าวว่า
ตนเองปลูกยางพารามา 6 ปี
ไม่ได้ผลอะไรมีแต่เสียเงินไปซื้อปุ๋ย ยาฆ่าแมลงหมดเงินไปมากลงทุนสูง อีกทั้งราคายางตกต่ำมาอย่างต่อเนื่อง
มีแนวคิดหาปลูกพืชชนิดอื่นมาทดแทน
จึงได้ตัดต้นยางพาราทิ้ง หันไปปลูกกล้วยน้ำว้า
ซึ่งเคยเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญของอำเภอสังคมมาก่อน ที่เกษตรกรคิดว่าราคายางดี
ตัดต้นกล้วยทิ้งหันไปปลูกยางพาราเป็นส่วนใหญ่ ตนคิดหากปล่อยต้นยางพาราไว้ก็คงขายไม่ได้ราคา
ดังนั้น จึงตัดต้นยางพาราที่ปลูกมา 6
ปีทิ้งสนองนโยบายรัฐบาลให้ปลูกพืชอื่น และใช้น้ำน้อยมาทดแทน ได้นำพันธุ์กล้วยน้ำว้ามาปลูกแทนกว่า 1,000 ต้น จำนวน 11 ไร่
และปลูกเงาะกว่า 300 ต้น ในพื้นที่ 7 ไร่อีก
3 ปี
คงได้ผลผลิต
สำหรับกล้วยน้ำว้า ปลูกมาได้ประมาณ 2 ปีทนแล้งและไม่เปลืองน้ำ
ปีแรกก็ได้ผลผลิตเป็นที่น่าพอใจ จะส่งเครือกล้วยขายโดยมีพ่อค้ามารับถึงบ้าน
จะขายแบบไม่แยกหวี จะขายเป็นเครือกล้วย ส่วนราคาจะนับหวีกล้วยที่อยู่ในเครือ
คิดหวีละ 9 บาท จะเหลือไว้ 2
หวีที่ไม่คิดเงินเพราะจะให้พ่อค้าที่มารับไปขายเป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปส่งขายตลาดในจังหวัดหนองคายและอุดรธานี จะเก็บขายเดือนละ 1-2
ครั้ง มีรายได้ต่อเดือน 5,000-15,000 บาท
ถือเป็นรายได้ที่ดี ที่สามารถเลี้ยงครอบครัวได้แบบพออยู่พอกิน
ซึ่งช่วงหลัง ๆ เกษตรกรที่นี่เริ่มหันไปปลูกกล้วยเพิ่มขึ้น มีเกษตรกรบางรายต้องปล่อยสวนยางพาราทิ้งโดยไม่กรีดยาง
ไม่ใส่ปุ๋ย และไม่จ้างแรงงานกรีดยาง
เพราะหากนำไปขายก็ไม่ได้ราคาไม่คุ้มทุนที่เสียไป
ตนคิดว่าอย่าไปหวังรอให้คนอื่น หรือรัฐบาลมาช่วยเหลือ
เราต้องช่วยเหลือตนเองให้ได้ก่อนเพื่ออนาคตลูกหลาน จะได้มีกินมีใช้
เสียง....นายวาทิน กุศล กล่าวว่า
“ยางพาราปลูกมา 6 ปี ไม่ได้ผลอะไร มีแต่เสียเงินซื้อปุ๋ย ยาฆ่าแมลง หมดเงินไปเป็นหมื่น
กล้วยปลูกปีเดียวก็ได้รับผลแล้ว อย่างไรปลูกกล้วยดีกว่ายาง
ตอนที่ยางไม่เป็นราคาได้ตัดทิ้ง มีคนมาถามว่าตัดทิ้งทำไม ผมก็เลยบอกว่า
สนองนโยบายรัฐบาล”