พบโรงงานและบ้าน
ที่ถูกพายุลูกเห็บถล่มได้รับความเสียหายเกือบทั้งหลัง
แต่ผนังที่ติดพระบรมฉายาลักษณ์ในหลวง-ร.๕
และเครื่องจักรที่อยู่ในโรงงาน ไม่ได้รับความเสียหาย ถึงกับตะลึงปลื้มปีติ
และเชื่อว่าเป็นปาฏิหาริย์ บารมีของพระองค์ท่าน
นางดาเรศ
พันธุระ เจ้าของบริษัทแม่น้ำโขงคอร์ปอเรชั่น ตั้งอยู่ที่บ้านน้ำโมง อำเภอท่าบ่อ
จังหวัดหนองคาย กล่าวว่า หลังจากพายุลูกเห็บพัดถล่มโรงงาน เมื่อวันที่ ๑๘ ก.พ.ที่ผ่านมา
ตนได้เข้าไปสำรวจโรงงานซึ่งเป็นที่ตั้งเครื่องจักรผสมปูน พบว่า โรงงานด้านหน้าถูกพายุพัดได้รับความเสียหาย
หลังคายุบพังลงเกือบทั้งหลัง แต่เมื่อสำรวจด้านในก็ถึงกับทึ่ง
เพราะผนังด้านที่ติดพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
และ ร.๕ เก่าแก่ รวมถึง รูปหล่อหลวงปู่นาค เพื่อไว้สักการบูชานั้น กลับไม่ได้รับความเสียหาย เครื่องจักรที่อยู่บริเวณใกล้เคียงพระบรมฉายาลักษณ์ก็ไม่ได้รับความเสียหายเช่นกัน สร้างความตื้นตันใจให้กับตนและผู้พบเห็น ตนเกิดมาอายุครึ่งร้อยซึ่งเคารพกราบบูชาในหลวงและ
ร.5 อยู่แล้ว ยิ่งเพิ่มความศรัทธาและทำให้มีกำลังใจกลับมาอีกอย่างอัศจรรย์ แม้ว่าจะสูญเสียทรัพย์สิน
และมูลค่าความเสียหายครั้งนี้กว่า 10 ล้านบาท
นอกจากนั้น
ยังพบบ้านของราษฎรที่ประสบวาตภัยที่บ้านน้ำโมง อำเภอท่าบ่อ
ได้รับความเสียหายทั้งหลัง เสาไฟฟ้าล้มทับกลางบ้าน
ซึ่งมียายเจ้าของบ้านนอนอยู่รอดตายอย่างปาฎิหาริย์บาดเจ็บเล็กน้อย เพราะเชื่อว่า
ฝาบ้านตรงที่ยายนอนอยู่ติดพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ที่เก่าแก่ไว้
หลังคาตรงที่ติดพระบรมฉายาลักษณ์ก็ไม่เสียหาย
ส่วนหลังคาบริเวณใกล้กันได้รับความเสียหายทั้งหมด เชื่อว่าเป็นเพราะบารมีของพระองค์ท่าน ที่คุ้มครองให้ปลอดภัย.