หนองคาย เกษตรกรชาวนาหันมาปลูกพืชผสมที่ใช้น้ำน้อย
ทนแล้ง ลดความเสี่ยงไม่มีน้ำทำนา สร้างรายได้เสริมแบบพออยู่พอกินเลี้ยงครอบครัวตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
จากสถานการณ์ภัยแล้งทำให้แหล่งน้ำธรรมชาติหลายแห่งเริ่มมีปริมาณน้ำลดลงอย่างต่อเนื่อง
เกษตรกรชาวนาบ้านหัวทราย หมู่ที่ 11 ตำบลพานพร้าว อำเภอศรีเชียงใหม่ จังหวัดหนองคาย
หันมาปลูกพืชผสมที่ใช้น้ำน้อย ทนแล้ง หลังต้องหยุดทำนา
เพื่อลดความเสี่ยงไม่มีน้ำทำนา เนื่องจากที่นาอยู่บนพื้นที่สูงและต้องประสบปัญหาแย่งสูบน้ำเข้าท้องนากับชาวนารายอื่น
นายบัวผัน บุญชัย อายุ 67
ปี เกษตรกรชาวนาบ้านหัวทราย กล่าวว่า ช่วงนี้ตนจำเป็นต้องหยุดทำนา 5 ไร่ ที่อยู่บนพื้นที่สูงห่างไกลคลองน้ำ
ปกติตนจะลงมือทำนาปีละครั้ง ซึ่งต้องแย่งสูบน้ำเข้านากับชาวนาคนอื่นๆ ทุกปี
ข้าวก็ได้ผลผลิตน้อย จึงต้องหันมาทำพืชผักผสมหลายชนิด
มาเป็นอาชีพเสริม โดยทำการปลูกผักผสมในพื้นที่ 3 ไร่ แยกเป็นปลูกผัก 1 ไร่ เช่น
ผักบุ้ง ผักกาดขาว ผักชี ผักกวางตุ้ง และฟักทอง ซึ่งสวนผักนั้น จะทำการรดน้ำทุกวันแต่ใช้น้ำไม่มาก
ส่วนฟักทองจะให้น้ำระยะห่าง 9-10 วันต่อครั้ง
ซึ่งจะประหยัดน้ำมาก ส่วนอีก 2 ไร่
จะปลูกตะไคร้ โดยเริ่มปลูกมาตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา
ตั้งแต่ปลูกก็ไม่ได้ให้น้ำมากเช่นกัน เพราะเป็นพืชทนแล้ง
และช่วงนี้ตะไคร้ก็เริ่มขายได้แล้ว ซึ่งจะมีพ่อค้าแม่ค้ามารับซื้อถึงที่ไม่ต้องไปวางขายตามท้องตลาดเอง
แต่ละวันจะส่งขายได้ 300-500 กิโลกรัม/วัน ทุกอย่างที่ปลูกจะใช้ปุ๋ยคอก และตาม ปุ๋ยชีวภาพ ส่วนน้ำที่ใช้รดผักก็เป็นน้ำคลอง
สำหรับรายได้จากการจำหน่ายพืชผัก เป็นรายได้เสริมสู้ภัยแล้งสำหรับเลี้ยงครอบครัวแบบพออยู่พอกิน
ตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว