หนองคาย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
พร้อมคณะลงพื้นที่ตรวจความพร้อมพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษจังหวัดหนองคาย

จากนายสุชาติ
นพวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย และนายวัฒนา
คงมั่น ผู้อำนวยการศูนย์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือการรถไฟแห่งประเทศไทย พร้อมด้วยหัวน้าส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การต้อนรับ
หลังจากรับฟังการบรรยายสรุป คณะฯได้นั่งรถไฟสำรวจดูเส้นทางรถไฟจากสถานีรถไฟหนองคายถึงกลางสะพานมิตรภาพไทย-ลาวและกลับไปยัง สถานีรถไฟนาทา เพื่อสำรวจพื้นที่บริเวณสถานีรถไฟนาทาที่จะตั้งเป็นศูนย์รวบรวมสินค้าระบบตู้คอนเทนเนอร์
(CY) รองรับการขนส่งสินค้า
สำหรับเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษจังหวัดหนองคาย
ได้กำหนดพื้นที่พัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ 3 อำเภอ คือ อำเภอโพนพิสัย
อำเภอท่าบ่อ และอำเภอศรีเชียงใหม่ ที่เป็นบริเวณที่อยู่ถนนสายหลักและเส้นทางรถไฟ
รวมถึงด่านหนองคายที่มีชายแดนติดเวียงจันทน์ สปป.ลาว
แนวทางการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพื้นที่หนองคาย
จะเน้นการค้ากับโลจิสติกส์เชื่อมระหว่างภาคและระหว่างประเทศ โดยก่อนหน้านี้ จังหวัดหนองคายได้กำหนดเขตเศรษฐกิจพิเศษหนองคายอยู่ในเขตพื้นที่ อำเภอเมืองหนองคาย และอำเภอสระใคร จำนวน 3,300 ไร่ ซึ่งกำหนดให้อำเภอสระใคร เป็นพื้นที่พัฒนาเมืองใหม่รองรับโครงการรถไฟ
เส้นทางกรุงเทพ-หนองคาย ซึ่งล่าสุด รัฐบาลได้ประกาศพื้นที่ใหม่เพิ่มเติมอีก 3 อำเภอ เป็น 5 อำเภอ 22 ตำบล เนื้อที่
559,614 ไร่ ยกระดับเขตเศรษฐกิจพิเศษพื้นที่หนองคายขึ้นมาอยู่ในแผนลงทุนระยะเร่งด่วน
จาก 5 พื้นที่เดิม เป็น 6 พื้นที่
ได้แก่ ตาก ตราด มุกดาหาร สระแก้ว สงขลา และหนองคาย ทำให้จังหวัดหนองคาย
ต้องเร่งดำเนินการแต่งตั้งคณะทำงานขับเคลื่อนนโยบายเขตเศรษฐกิจจังหวัดหนองคาย 3 คณะ คือ คณะทำงานด้านโครงสร้างพื้นฐานและด่านศุลกากร, คณะทำงานด้านสิทธิประโยชน์ ขอบเขตพื้นที่ และศูนย์บริการเบ็ดเสร็จด้านการลงทุน
และคณะทำงานศูนย์บริการเบ็ดเสร็จด้านแรงงาน การสาธารณสุขและความมั่นคง
พร้อมประเภทกิจการที่เหมาะสมในการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษ ให้สอดคล้องกับศักยภาพและบริบทของจังหวัดหนองคาย
3 ประเภท คือ ศูนย์กลางตลาดค้าส่ง/ปลีก และสินค้าระหว่างประเทศ
“ครัวไทยสู่อาเซียน”, ประเภทการคมนาคมขนส่งทั้งภายในประเทศและต่างประเทศหรือลอจิสติกส์
และประเภทอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว
นอกจากนี้ ยังได้จัดพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ สำหรับเอกชนเช่าในพื้นที่ อำเภอเมือง
อำเภอสระใคร และอำเภอโพนพิสัย เป็นพื้นที่ไม่มีการบุกรุก ประชาชนไม่ได้รับผลกระทบ
ซึ่งขณะนี้จังหวัดหนองคายได้จัดตั้งศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด เป็น
"ศูนย์บริการเบ็ดเสร็จด้านการลงทุนเขตเศรษฐกิจพิเศษ"
เพื่อเป็นศูนย์ประสานและบริการข้อมูลการดำเนินงานเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษในพื้นที่
โดยมีการเตรียมความพร้อมทั้งด้านบุคลากร และเครื่องมือในการให้บริการ
ส่วนการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.)
ได้กำหนดให้สถานีรถไฟนาทา ตั้งอยู่ในพื้นที่ตำบลหนองกอกเกาะ อำเภอเมืองหนองคาย ซึ่งมีที่ดินประมาณ 290 ไร่ ห่างจากสถานีรถไฟหนองคาย 3.5
กม. สถานีนาทามีข้อได้เปรียบสถานีหนองคายหลายด้าน เช่น
อยู่ในพื้นที่อุตสาหกรรมเฉพาะกิจ ประเภทอุตสาหกรรมและคลังสินค้า มีทางเข้าออกสถานี
2 ด้านทั้งทางเลี่ยงเมืองและถนนมิตรภาพ
เป็นพื้นที่ราบและเป็นทุ่งโล่ง มีชุมชนอาศัยอยู่เบาบางบริเวณสถานี
อยู่นอกเขตเมืองทำให้การจัดการจราจรสะดวก
หากมีการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งใหม่ สถานีห่างจากแม่น้ำโขง 4.5 กม. จึงได้กำหนดให้สถานีรถไฟนาทา
เป็นศูนย์รวบรวมสินค้าระบบตู้คอนเทนเนอร์ (CY) รองรับการขนส่งสินค้าจากจีนตอนใต้
ผ่านลาว เข้ามาชายแดนไทยที่สถานีหนองคาย ขนส่งต่อไปยังท่าเรือมาบตาพุดและแหลมฉบัง
โดยออกแบบรถไฟรางมาตรฐาน 1.435 เมตร เข้าไปรองรับภายในสถานี
จุดที่ตั้งประมาณ 10 กม. จากสถานีหนองคาย ด้านผลการศึกษาของกรมการขนส่งทางบกพบว่า
เป็นสถานีที่มีความเหมาะสมในการเป็นสถานีขนส่งสินค้าโดยรถบรรทุกในเมืองหลัก
และจังหวัดชายแดน
เหล่านี้ทำให้สถานีนาทาเป็นสถานีที่มีความเหมาะสมที่สุดในการเป็นสถานีขนส่งสินค้าคอนเทนเนอร์เพื่อจัดการลอจิสติกส์
พล.อ.อนุพงษ์ เผาจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
กล่าวว่า กระทรวงมหาดไทย
พร้อมสนับสนุนการขับเคลื่อนการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษตามนโยบายรัฐบาล
ซึ่งเขตเศรษฐกิจพิเศษจังหวัดหนองคาย น่าจะมีความพร้อมในด้านพื้นที่หากโครงการเริ่มดำเนินการคงไม่มีปัญหา
การบริหารจัดการแบ่งออกเป็น 2 ส่วน
ให้จังหวัดดูแลและภาคเอกชนดูแลในส่วนของนิคมอุตสาหกรรมหากภาคเอกชนพร้อมก็น่าจะดำเนินการได้
โดยเฉพาะเส้นทางรถไฟสายใหม่ ควรเร่งทำให้เกิดเขตเศรษฐกิจพิเศษ เพราะติดกับเมืองหลวงของ
สปป.ลาวที่มีความพร้อม ซึ่งเส้นทางรถไฟใหม่
จะเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดการสัญจร การข้ามแดน และการขนส่งสินค้า หากเส้นทางรถไฟสายใหม่เสร็จแล้วจึงทำเขตเศรษฐกิจพิเศษจะไม่ทันการณ์
ควรดำเนินการในตอนนี้เพราะเรามีพื้นที่ โครงสร้างพื้นฐานรองรับ
มันอาจจะไม่เห็นผลใน 2-3 ปี แต่ถ้าเส้นทางรถไฟจากจีนมาถึงสปป.ลาวและถึงไทย
ก็จะส่งผลดีในอนาคต.