หนองคาย
เกิดการปะทะกันระหว่างขบวนการค้ายาเสพติด
กับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอสังคม ยิงกันสนั่น นานกว่า 5 นาที
ต้องขอกำลังเสริมจาก ตชด.และ กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี
ก่อนคนร้ายทิ้งรถและกัญชากระโดดลงเรือขับหลบหนีข้ามไปฝั่ง สปป.ลาว สามารถยึดกัญชาแห้งอักแท่งได้ประมาณ 756 กิโลกรัม โชคดีที่ไม่มีใครได้รับอันตราย
เมื่อคืนวันที่ 21 ต.ค.58 เวลาประมาณ 20.00 น. ที่บริเวณสวนยางพาราริมฝั่งโขง บ้านม่วง หมู่
2 ต.บ้วนม่วง อ.สังคม จ.หนองคาย เกิดการปะทะกันระหว่างขบวนการค้ายาเสพติด กับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอสังคม
ยิงกันสนั่นสวนยางริมแม่น้ำโขง ต้องขอกำลังเสริมจาก ตชด.และ กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี
คนร้ายทิ้งรถและกัญชากระโดดลงเรือขับหลบหนีข้ามไปฝั่ง สปป.ลาว จึงได้รายงานให้นายสุชาติ นพวรรณ
ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย ทราบ
จากนั้นได้สนธิกำลังหน่วยงานในพื้นที่เข้าตรวจสอบพื้นที่พบกัญชาแห้งอัดแท่งจำนวน 16
กระสอบ น้ำหนัก 756 กิโลกรัม
ห่อด้วยกระดาษฟอยล์ตระกั่วกันน้ำ บรรจุในถุงหัวอาหารปลาสีขาว
ทับด้วยถุงพาสติกสีดำอีกชั้นหนึ่ง
บรรทุกอยู่บนรถยนต์ปิคอัพ อีซูซุ ดีแม็กสี่ประตู สีบรอนเทา หมายเลขทะเบียน ฎบ 6503
กรุงเทพมหานคร
ใกล้กันยังพบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า สีน้ำเงิน ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน จำนวน 1
คัน ตรวจค้นภายในรถพบสมุดคู่มือรถ จำนวน 2
เล่ม และแผ่นทะเบียนปลอม จำนวน 2 แผ่น จึงได้ตรวจยึดมาที่ กองร้อย
อส.ที่ 5 อ.สังคม จ.หนองคาย
การปะทะกันครั้งนี้ครั้งนี้
นายนพดล วิริยะยุทธ นายอำเภอสังคม
ได้รับแจ้งจากสายว่าจะมีการลักลอบนำยาเสพติดประเภทกัญชา ข้ามจาก สปป.ลาว
มาส่งที่บริเวณสวนยางพาราท้ายหมู่บ้านบ้านม่วง หมู่ 2 ต.บ้านม่วง ประมาณ 1,000แท่ง (พันกิโลกรัม)
จึงได้รายงานให้นายสุชาติ นพวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย ทราบ จากนั้นได้จัดกำลังเจ้าหน้า
อส.ออกปฎิบัติการป้องกันและปราบปรามเข้าดักซุ่ม จนกระทั่งเวลาประมาณ 20.00 น.
อส.ชัยยา ปลัดพรหม อส.วีระชัย พิมโพธิ์พันธ์ สังเกตุ เห็นเรือจำนวน 5 ลำ บรรทุกสิ่งของและมีชายนั่งมาในเรือลำละ 2 มุ่งหน้ามายังฝั่งไทย
ใกล้กับที่ทั้งสองซุ้มอยู่
และพบรถยนต์คันดังกล่าวจออยู่ในสวนยางพารา และ รถจักรยานยนต์ ฮอนด้า เวฟ
สีน้ำเงิน ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน จึงได้แสดงตนเข้าตรวจค้น
เมื่อคนขับเห็นจึงบีบแตรรถยนต์ดังยาวเป็นการส่งสัญญาณ และวิ่งกระโดดลงเรือ
หลบหนีพร้อมกัญชาอีกจำนวน 300 กิโลกรัม
ที่ยังลำเลียงขึ้นไม่หมด จากนั้น ก็ได้ยินเสียงปืนไม่ทราบชนิดยิงมาจากเรือ เป็นชุด
ๆ
จึงเข้าที่กำบังและยิงสวนกลับไปนานประมาณ 5 นาที
จึงได้วิทยุขอกำลังจาก กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี และ ตชด. ที่อยู่ใกล้ เข้าช่วย
และเข้าตรวจสอบพบกัญชาจำนวนดังกล่าว จึงได้ทำการตรวจยึดและนำมาที่ กองร้อย อส.ที่ 5 อ.สังคม เพื่อตรวจนับละเอียดอีกครั้ง
เวลาประมาณ 10.00 น.
วันที่ 22 ต.ค. 58 จนท. ได้การจับกุม นายจอมใจ ชัยเลิศ
128/ 1 หมู่ 2 ต.หนองไขว่ อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ ได้ที่วัดบ้านตาดเสริม ขณะนั่งกินข้าว โดยได้ไปซื้อรองเท้า และซื้อข้าว
ที่ร้านค้าในหมู่บ้าน มานั่งกิน ชาวบ้านเห็นสงสัยเลยแจ้งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบและจับกุมตัว
ส่วนนายรุ่ง ใจกระจ่าง 1/2 ม.2 ต.หนองแค จ.สระบุรี
จับกุมตัวได้ที่บริเวณ สามแยกบ้านม่วง ขณะเดินจะไปซื้ออาหารที่ร้านค้า
ใกล้กับบริเวณเกิดเหตุ
เบื้องต้น ทั้งสองรับว่าพวกตนเป็นเพียงคนรับจ้างให้มารับกัญชาเท่านั้น
เพื่อจะนำไปส่งให้กับผู้ค้าในพื้นที่ตอนในของประเทศ ขณะเกิดเหตุ ได้ขับรถยนต์คันดังกล่าวไปรับกัญชาที่พ่อลาวนำมาส่งให้ที่บริเวณเกิดเหตุ ขณะกำลังลำเลียงกัญชาขึ้นจากเรือมาใส่รถ พบเจ้าหน้าที่ ตกใจวิ่งหลบหนี
แต่ในที่สุดไปไม่รอดเนื่องจากพวกตนเป็นคนมาจากที่อื่น ไม่รู้พื้นที่
จึงหลบอยู่ป่าริมแม่น้ำโขงใกล้กับ ที่เกิดเหตุ
เมื่อเห็นว่า จนท.ออกจากพื้นที่ไปแล้ว
จึงได้
แยกกันหลบหนีออกจากพื้นที่ลัดเล่าะไปตามป่าเดินเข้าไปในหมู่บ้าน
เพื่อหาซื้อรองเท้าและข้าวทาน แต่ก็มาถูก จนท.จับกุมตัวได้ดังกล่าว จากนั้นจะนำตัวทั้งสองคนมาทำการสอบสวน
และควบคุมตัวพร้อมของกลางกัญชา จำนวน 765 แท่ง (765 กก.) ส่งพนักงานสอบสวน
สภ.นางิ้ว อ.สังคม ดำเนินคดีตามกฎหมาย และจะได้ขยายผลติดตามผู้เกี่ยวข้องที่หลบหนีมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป